บทความน่ารู้


การใช้บัตรเครดิตตามหลักการอิสลาม

บัตรเครดิต ใช้อย่างไรให้ถูกหลักศาสนาอิสลาม ธุรกรรมสมัยใหม่ที่เข้ามามีบทบาท ที่หลายๆคนรู้จักและใช้บริการอยู่ นั่นคือ บริการบัตรเครดิต จากธนาคารต่างๆ ที่เข้ามาให้บริการลูกค้าบัตรเครดิตนั้นเปรียบไปแล้วก็เหมือนกับวงเงินที่ธนาคารมอบให้แก่ผู้ที่มีเครดิต สามารถนำบัตรเครดิตไป ซื้อสินค้าและบริการแทนเงินสด ข้อดีและความสะดวกของการใช้บัตรเครดิต

1. ได้สิทธิ์รับส่วนลด ส่วนคืนเงินสด และแต้มสะสม เมื่อสมัครชำระค่าบริการรายเดือนต่างๆ ผ่านบัญชีบัตรเครดิตโดยอัตโนมัติ เช่น ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเอไอเอส จะให้ส่วนลด 5% แก่ลูกค้าที่จ่ายค่าบริการรายเดือนด้วยวิธีการนี้ เป็นต้น

2. รับสิทธิพิเศษ และสิทธิประโยชน์จากร้านค้า หรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโปรโมชั่นกับบัตรเครดิตที่ใช้ สิทธิพิเศษดีๆ ที่บางครั้งเงินก็ไม่สามารถซื้อได้ เช่นที่จอดรถพิเศษเฉพาะในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง หรืออาจจะต้องชำระเงินเป็นหลักพันเพื่อให้ได้ใช้บริการ อย่างสิทธิ์ในการเข้าใช้ห้องพักรับรองที่สนามบิน ตลอดจนการ ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ร้านอาหารบางร้านเข้าร่วมโดยเพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตตรงตามเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่ทางร้านหรือบัตรเครดิตของกำหนด ก็จะได้รับของแถม ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ ที่มากกว่าซึ่งในบางครั้งการชำระค่าใช้จ่ายด้วยเงินสดอาจจะไม่ได้รับอะไรเพิ่มเลย

3. ลดความยุ่งยากของการชำระค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายประจำที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าโทรศัพท์บ้าน ค่ามือถือ ค่าบริการอินเตอร์เน็ตรายเดือน และค่าบริการเคเบิ้ลทีวี ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้และต้องชำระทุกๆ เดือน ดังนั้นการทำเรื่องขอชำระค่าบริการรายเดือนผ่านบัตรเครดิตเพื่อจ่ายค่าสาธารณูปโภคทั้งหลายนอกจากจะช่วยทำ ให้ประหยัดเวลาที่จะต้องมาคอยเดินไล่จ่ายบิลค่าบริการของแต่ละที่ ไม่ต้องมาคอยนั่งจดจำเดดไลน์กำหนดชำระค่าบริการ และลดปัญหาความยุ่งยากในกรณีที่ลืมชำระค่าบริการอย่างเช่นค่าไฟฟ้านี่ หากลืมจ่ายจนเกิดเป็นยอดค้างชำระแล้ว จะต้องเดินทางไปชำระยอดค้างชำระนั้นๆโดยตรงที่สำนักงานการไฟฟ้าฯ ไม่สามารถชำระตามเคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือเคาน์เตอร์ธนาคารได้นอกจากนั้นในบางทีการสมัครชำระค่าบริการสาธารณูปโภคผ่านบัตรเครดิตยังจะได้รับข้อเสนอดีๆ เพิ่มขึ้นอีก

4. ใช้ทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต การซื้อ-ขายสินค้าผ่านทางโลกออนไลน์ที่นับวันจะได้รับความนิยมมากขึ้น และซื้อขายออนไลน์จะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา ดังนั้นการมีบัตรเครดิตก็จะกลายเป็นเรื่องจำเป็น เพราะถือเป็นเครื่องมือสำคัญในขั้นตอนการชำระค่าสินค้าที่สะดวก และปลอดภัยมากกว่าการโอนเงินสดให้กันโดยตรง (ทางเลือกในการชำระเงินแบบอื่น เช่น PAYPAL หรือบัตรเดบิต)

5. ยกเลิกค่าใช้จ่ายได้หากสินค้า หรือบริการมีปัญหา หากการจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้า หรือบริการของเกิดปัญหา หรือไม่ได้รับการบริการตามที่ได้ทำการตกลงกัน การเลือกชำระเงินผ่านบัตรเครดิต เราจะสามารถโทรแจ้งขอยกเลิกยอดชำระค่าใช้จ่าย หรือ ให้ทางร้านค้าทำเรื่องขอยกเลิกยอดการใช้จ่ายนั้นๆ ได้ซึ่งแน่นอนว่าจ่ายด้วยเงินสดทำไม่ได้หรือมักจะทำได้ยากกว่าหากเจ้าของร้านไม่ให้ความร่วมมือ เช่น การชำระค่าสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าบางแห่งด้วยเงินสด ซึ่งมาทราบทีหลังว่าไม่ได้รับส่วนลดบางอย่างเหมือนการชำระด้วยบัตรเครดิต จึงทำการขอยกเลิกการซื้อเพื่อที่จะชำระค่าสินค้าผ่านบัตรเครดิตแทน ก็ได้รับคำตอบจากพนักงานว่าไม่สามารถทำได้ (ได้แค่สิทธิ์ขอเปลี่ยนคืนสินค้า) แต่หากเป็นการชำระผ่านบัตรเครดิตจะสามารถทำการยกเลิกยอดใช้จ่ายนี้ได้

6. ยืดระยะเวลาในการจ่ายเงินออกไปได้และช่วยทำให้สามารถวางแผนการใช้เงินได้ บัตรหลายๆ ใบให้ระยะเวลาในการจ่ายเงินคืนโดยไม่คิดดอกเบี้ยจากเงินที่ชำระผ่านบัตรเครดิตตั้งแต่ 45-51 วัน เพราะในบางทีหากเกิดเรื่อง หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ทำให้รายรับของอาจถูกเลื่อนกำหนดการจ่ายออกไป ทำให้ไม่มีเงินก้อนมาชำระค่าใช้จ่ายที่จำเป็น การมีบัตรเครดิตก็จะเข้ามาช่วยเหลือเรื่องพวกนี้โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย ตราบใดที่ชำระคืนเงินทั้งหมดตามเวลา นอกจากนี้การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตยังเปรียบเสมือนมีคนมาคอยช่วยสรุปบันทึกค่าใช้จ่ายให้ทุกๆ เดือน เพราะทุกๆ รอบบิลทางธนาคารจะมีการสรุปยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมาเพื่อให้ได้ตรวจสอบ ซึ่งจะช่วยให้ได้รู้ว่าในแต่ละเดือนได้ใช้จ่ายในเรื่องอะไรบ้างเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นหรือไม่จำเป็น การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจึงเปรียบเสมือนมีคนมาช่วยจดจำค่าใช้จ่ายให้ในทุกๆ เดือน ดีกว่าใช้เงินสดแบบไม่รู้ตัวว่าเดือนๆ นึงหมดเงินไปกับค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

7. ใช้เป็นวงเงินฉุกเฉิน หรือมีไว้เผื่อเป็น Back Up ในยามจำเป็น มีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่บางครั้งเราก็ไม่สามารถคาดการณ์จำนวนเงินล่วงหน้าได้ หรือจะพกเงินสดเยอะๆ บางครั้งก็อาจสามารถที่จะประเมินจำนวนเงินได้ เช่น ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ หรือค่าเดินทาง โดยอาจจะต้องสำรองจ่ายล่วงหน้าไปก่อน แล้วค่อยทำเรื่องเบิกขอคืนค่าใช้จ่าย จากทางบริษัท ซึ่งการเลือกชำระค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะได้สลิปค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน ช่วยให้สะดวกในการทำเรื่องขอเบิกคืนเงิน และยังช่วยลดความกังวลใจในเรื่องการคาดการณ์ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้ด้วย

8. ไปต่างประเทศนานๆ บางครั้งใช้บัตรเครดิตดีกว่า การเดินทางไปต่างประเทศควรคำนวณเงิน และแลกเงินให้พอดีกับค่าใช้จ่ายหลักๆ ส่วนค่าใช้จ่ายจุกจิก เช่น ค่าช้อปปิ้ง หรือค่าใช้จ่ายที่ไม่แน่นอนควรชำระด้วยบัตรเครดิตจะสะดวกกว่า ถึงแม้จะต้องเสียค่าประกัน ความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน แต่หากพกเงินสดเยอะมากๆ หายทีเดียวจะเสียเยอะกว่า ข้อเสียของบัตรเครดิต ถ้าไม่ควบคุมค่าใช้จ่ายให้ดีจะทำให้เป็นหนี้ได้ง่าย บัตรเครดิตมีค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยด้วยต้องศึกษาให้ดี ถูกขโมยไปใช้ได้ง่ายถ้าไม่ระวัง ข้อมูลบัตรเครดิตเชื่อมโยงกันถ้าผิดชำระหนี้จะกระทบกับเครดิตของผู้ถือบัตร ซึ่งอาจต้องใช้เวลาพอสมควรในการลบเครดิตที่เสีย เนื่องจากในปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่มีสถาบันการเงินที่ให้บริการ Islamic Credit Card หรือ บัตรเครดิตแบบอิสลามดังนั้น อย่างที่ทราบกันดีว่า หากสามารถนำบัตรเครดิตทั่วไปใช้รูด ซื้อสินค้าหรือบริการ มุสลิมจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับดอกเบี้ย (Riba) หรือค่าเบี้ยปรับ (ถือเป็นดอกเบี้ยชนิดหนึ่ง) โดยหลักการของอิสลามในการไม่ยุ่งเกี่ยวกับดอกเบี้ยนั้นซึ่งเป็นบาปใหญ่ที่มุสลิมทุกคนควรหลีกเลี่ยง ซึ่งรวมถึงการรับดอกเบี้ยและการจ่ายดอกเบี้ย ดังหลักฐานดังต่อไปนี้ “บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! พึงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด และจงละเว้นริบา(ดอกเบี้ย) ที่ยังเหลืออยู่เสีย หากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธา และถ้าพวกเจ้ามิได้ปฏิบัติตาม ก็พึงรับรู้ถึงสงครามจากอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์ และหากพวกเจ้าสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวแล้วสำหรับพวกเจ้าก็คือต้นทุนแห่งทรัพย์ของพวกเจ้า โดยที่พวกเจ้าจะได้ไม่อธรรม และไม่ถูกอธรรม” (อัล-บะเกาะเราะฮฺ: 278-279) หลักฐานจากฮาดิษ ดังนี้ ท่านศาสดามูฮัมหมัด(ซ.ล.)ได้กล่าวว่า “ผู้ใช้ ผู้ให้ ผู้บันทึก และผู้เป็นพยาน ในเรื่องของริบา (ดอกเบี้ย) ทั้งหมดนั้นย่อมเป็นผู้ที่ได้รับการสาปแช่งและเป็นผู้ที่ล้มเหลว” (รายงานโดยมุสลิม, อบูดาวุด, อิบนุมาญะฮฺ, นาซาอี, อะหมัด) แนวทางการใช้บัตรเครดิต ให้เป็นไปตามแนวทางของศาสนาอิสลาม หลีกเลี่ยงการใช้บัตรเครดิต หากไม่มีความจำเป็นเนื่องจากการใช้บัตรเครดิตนั้น เนื่องจากเป็นการทำสัญญาการทำการกู้ยืมเงิน โดยมีการคิดดอกเบี้ย(Shaykh, 2002) ที่ผิดหลักศาสนาอิสลาม อย่างไรก็ตามมีทัศนะนักวิชาการบางส่วนที่ให้ความเห็นว่าสามารถใช้บัตรเครดิตทั่วไปได้หากมีความจำเป็นเนื่องจากความยากลำบากและมีความมั่นใจว่าจะไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย (Justice Maulana Muhammad Taqi Usmani / Kahf, 2002) อีกทางเลือกที่จะหลีกเลี่ยงโดยอาจจะพิจาณาใช้บัตรเดบิตเป็นทางเลือก ซึ่งบัตรเดบิตสามารถค่าสินค้าและบริการได้เช่นกัน แต่อาจจะมีข้อจำกัดบางประการมากกว่าบัตรเครดิต หากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้บัตรเครดิต จะต้องชำระเงินคืนตามกำหนดเวลาเท่านั้นเพื่อจะไม่ให้เกิดดอกเบี้ยและค่าเบี้ยปรับ ซึ่งเป็นที่ต้องห้ามสำหรับศาสนาอิสลาม หากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้บัตรเครดิต จะต้องชำระเต็มจำนวนตามกำหนดเวลาเท่านั้น เนื่องจากการชำระขั้นต่ำ(Minimum payment) ทางสถาบันการเงินผู้ให้บริการจะคิดดอกเบี้ย จากยอดเงินคงเหลือที่ไม่ได้ชำระ ซึ่งเป็นที่ต้องห้ามสำหรับศาสนาอิสลามเช่นกัน หากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้บัตรเครดิต จะต้องไม่ใช้การกดเงินสดจากบัตรเครดิตหรือบริการกู้ยืมใดๆ จากวงเงินบัตรเครดิต เนื่องจากมีการคิดดอกเบี้ยในการให้บริการดังกล่าว ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเห็นการให้บริการ Islamic Credit Card หรือ บัตรเครดิตแบบอิสลามในอนาคตอันใกล้ เพื่อตอบสนองบริการทางการเงินและความสะดวกสบายแบบถูกหลักการอิสลาม 100% ให้แก่พี่น้องมุสลิม วัลลอฮุอะลัม เรียบเรียงโดย Muhammad Azmii Mahamad หมายเหตุ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่บทความด้วยการ

อ้างอิงถึง http://www.การเงินอิสลาม.com หรือ http://www.islamicfinancethai.com


ย้อนกลับ