บทความน่ารู้
ความประเสริฐในด้านมุอามะลาต(คบค้าสมาคม)
ความประเสริฐของการเชิญชวน(ดะอฺวะฮฺ)ไปสู่อัลลอฮฺ
1. อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลาได้ตรัสว่า
ความว่า “และผู้ใดเล่าจะมีคำพูดดีเลิศยิ่งไปกว่าผู้เชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ และเขาปฏิบัติงานที่ดีและกล่าวว่า แท้จริงฉันป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้นอบน้อม” (ฟุศศิลัต : 33)
2. จากสะฮฺล์ บิน สะอัด เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ (ได้กล่าวว่า) ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวแก่ อะลีย์ บิน อะบีฏอลิบ ในช่วงสงคามคอยบัรฺว่า
«انْفُذْ عَلَى رِسْلِكَ حَتَّى تَنْزِلَ بِسَاحَتِـهِـمْ، ثُمَّ ادْعُهُـمْ إلَى الإسْلامِ، وَأَخْبِرْهُـمْ بِمَا يَـجِبُ عَلَيْـهِـمْ مِنْ حَقِّ الله فِيهِ، فَوَالله لأَنْ يَـهْدِيَ الله بِكَ رَجُلاً وَاحِداً خَيْرٌ لَكَ مِنْ أَنْ يَكُونَ لَكَ حُـمْرُ النَّعَمِ».
ความว่า “ท่านจงเดินไปอย่างช้าๆ จนกว่าจะถึงหมู่บ้านของพวกเขา หลังจากนั้นเจ้าจงเชิญชวนพวกเขาสู่อิสลาม และจงอธิบายแก่พวกเขาถึงสิ่งที่เป็นวาญิบ(จำเป็น)เหนือพวกเขาในสิ่งที่เป็นสิทธิของอัลลอฮฺ ฉันขอสาบานด้วยอัลลอฮฺ หากอัลลอฮฺทรงประทานฮิดายะฮฺ(การชี้ทางนำ)แก่คนหนึ่งเนื่องจากการเชิญชวนของท่าน แน่นอนมันเป็นสิ่งประเสริฐยิ่งกว่า(การที่ท่านได้รับ)อูฐแดงเสียอีก” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หะดีษที่ 2942 และมุสลิม หะดีษที่ 2406 สำนวนหะดาเป็นของมุสลิม)
ความประเสริฐของการเชิญชวนไปสู่ความดีและห้ามปรามความชั่วว
1. อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลาได้ตรัสว่า
ความว่า “และจงให้มีขึ้นจากพวกเจ้า ซึ่งคณะหนึ่งที่เชิญชวนไปสู่ความดี และใช้ให้กระทำสิ่งที่ชอบ และห้ามมิให้กระทำสิ่งที่มิชอบ และชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้ที่ได้รับความสำเร็จ” (อาลิอิมรอน : 104)
2. อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลาได้ตรัสว่า
ความว่า “พวกเจ้านั้นเป็นประชาชาติที่ดียิ่งซึ่งถูกให้อุบัติขึ้นสำหรับมนุษยชาติ โดยที่พวกเจ้าใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบ และห้ามมิให้ปฏิบัติในสิ่งที่มิชอบ และศรัทธาต่ออัลอฮฺ...” (อาลิอิมรอน : 110)
3. จากอะบีสะอีด อัลคุฎรีย์ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ ได้กล่าวว่าฉันได้ยินท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า
«مَنْ رَأَى مِنْكُمْ مُنْكَراً فَلْيُـغَيِّرْهُ بِيَدِهِ، فَإنْ لَـمْ يَسْتَطِعْ فَبِلِسَانِـهِ، فَإنْ لَـمْ يَسْتَطِعْ فَبِقَلْبِـهِ، وَذَلِكَ أَضْعَفُ الإيمَانِ».
ความว่า “ผู้ใดในหมู่พวกท่านพบเห็นสิ่งชั่วช้าหนึ่งๆ ก็จงเปลี่ยนแปลง (ขจัด) สิ่งนั้นด้วยมือของเขา แต่หากว่าเขาไม่สามารถ (ระงับสิ่งเหล่านั้นด้วยมือ) ก็จงเปลี่ยนแปลงด้วยลิ้น (วาจา) ของเขา แต่หากเขายังไม่สามารถ (ระงับสิ่งนั้นด้วยวาจา) ก็จงเปลี่ยนแปลงด้วยจิตใจของเขา (ความรู้สึกที่รังเกียจต่อสิ่งนั้น) และ (การเปลี่ยนแปลงด้วยจิตใจนั้น) นั้นถือว่าเป็นศรัทธาที่อ่อนแอที่สุด” (บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 49)
ความประเสริฐของการตักเตือนซึ่งกันและกัน
จากตะมีม อัดดารีย์ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ (ได้กล่าวว่า) ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า
«الدِّينُ النَّصِيحَةُ» قُلْنَا لِـمَنْ؟ قَالَ: «لله وَلِكِتَابِـه، وَلِرَسُولِـهِ، وَلأَئِمَّةِ المسْلِـمِينَ وَعَامَّتِـهِـمْ».
ความว่า “ศาสนา(อิสลาม)คือการตักเตือน” พวกเราก็ถามขึ้นว่า เพื่อใคร? ท่านนบี ก็ตอบว่า เพื่ออัลลอฮฺ เพื่อรอซูลของพระองค์ เพื่อผู้นำของมุสลิมและบรรดามุสลิมทุกคน” (บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 55)
ความประเสริฐของการตักเตือนในสิ่งที่เป็นสัจธรรม
1. อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลาได้ตรัสว่า
ความว่า “ขอสาบานด้วยกาลเวลา แท้จริงมนุษย์นั้นอยู่ในภาวะการขาดทุน นอกจากบรรดาผู้ที่ศรัทธาและผู้ทำความดีทั้งหลาย และตักเตือนซึ่งกันและกันในสิ่งที่เป็นสัจธรรม และตักเตือนซึ่งกันและกันให้มีความอดทน” (อัลอัศรฺ : 1 - 3)
2. อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลาได้ตรัสว่า
ความว่า “และบรรดาผู้ศรัทธาชายและผู้ศรัทธาหญิงนั้น บางส่วนของพวกเขาต่างก็เป็นผู้ช่วยเหลืออีกบางส่วน ซึ่งพวกเขาจะใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบและห้ามปรามในสิ่งที่มิชอบ และพวกเขาจะดำรงไว้ซึ่งการละหมาดและจ่ายซะกาตและภักดีต่ออัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์ ชนเหล่านี้แหละ อัลลอฮฺจะทรงเอ็นดูเมตตาแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงเดชานุภาพผู้ทรงปรีชาญาณ” (อัตเตาบะฮฺ : 71)
ความประเสริฐของผู้ที่สร้างแบบอย่างที่ดีในอิสลาม(เพื่อให้ผู้อื่นได้ปฏิบัติตาม)
จากญะรีรฺ บิน อับดุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ ได้กล่าวว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า
«.. مَنْ سَنَّ فِي الإسْلامِ سُنَّةً حَسَنَةً فَلَـهُ أَجْرُهَا، وَأَجْرُ مَنْ عَمِلَ بِـهَا بَـعْدَهُ، مِنْ غَيْرِ أَنْ يَنْقُصَ مِنْ أُجُورِهِـمْ شَيْءٌ، وَمَنْ سَنَّ فِي الإسْلامِ سُنَّةً سَيِّئَةً، كَانَ عَلَيهِ وِزْرُهَا وَوِزْرُ مَنْ عَمِلَ بِـهَا مِنْ بَـعْدِهِ مِنْ غَيرِ أَنْ يَنْقُصَ مِنْ أَوْزَارِهِـمْ شَيْءٌ».
ความว่า “...ผู้ใดที่ได้ทำแบบอย่างที่ดีในอิสลาม เขาผู้นั้นจะได้ในความดีนั้น และจะได้ความดีจากผู้ที่ได้ปฏิบัติในความดีดังกล่าวหลังจากเขาโดยที่ความดีเหล่านั้นจะไม่ขาดหายจากผู้ที่ทำความดีเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย และผู้ใดที่ได้ทำแบบอย่างที่ไม่ดีในอิสลาม เขาก็จะได้บาปจากสิ่งดังกล่าวนั้น และก็จะได้บาปจากผู้ที่ได้ปฏิบัติในสิ่งดังกล่าวนั้นหลังจากเขาโดยที่บาปเหล่านั้นก็ไม่ขาดหายจากผู้ที่ปฏิบัติเหล่านั้นแม้แต่น้อย” บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 1017
ความประเสริฐของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและประสานสัมพันธ์อันดีระหว่างมนุษย์
1. อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลาได้ตรัสว่า
ความว่า “ไม่มีความดีใดๆ ในการซุบซิบอันมากมายของพวกเขา นอกจากผู้ที่ใช้ให้ทำทานหรือให้ทำสิ่งที่ดีงาม หรือให้ประนีประนอมระหว่างผู้คนเท่านั้น และผู้ใดกระทำดังกล่าวเพื่อแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺแล้ว เราจะให้แก่เขาซึ่งรางวัลอันใหญ่หลวง” (อันนิสาอ์ : 114)
2. จากอบูอัดดัรฺดาอฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ ได้กล่าวว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า
«أَلا أُخْبِرُكُمْ بِأَفْضَلَ مِنْ دَرَجَةِ الصِّيَامِ وَالصَّلاةِ وَالصَّدَقَةِ؟» قَالُوا بَلَى، قَالَ: «إصْلاحُ ذَاتِ البَيْنِ، وَفَسَادُ ذَاتِ البَيْنِ الحَالِقَةُ».
ความว่า “พวกท่านชอบไหม ถ้าฉันจะบอกถึงสิ่งที่ประเสริฐ กว่าผลบุญของการถือศีลอด การละหมาด และการบริจาคทาน? บรรดาเศาะหาบะฮฺต่างกล่าวว่า ใช่ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า คือ การประนีประนอมระหว่างสองฝ่าย(ที่บาดหมางกัน) และความบาดหมางระหว่างสองฝ่ายคือสิ่งที่ลบล้างผลบุญ” (หะดีษเศาะหีหฺ บันทึกโดยอบูดาวูด หะดีษที่ 4919 และสำนวนหะดีษเป็นของท่าน และอัตติรมีซีย์ หะดีษที่ 2509)
ความประเสริฐของการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของบรรดาผู้ศรัทธา
1. อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลาได้ตรัสว่า
ความว่า “และพวกเจ้าจงช่วยเหลือกันและกันในสิ่งที่เป็นความดีและในความยำเกรง(ต่ออัลลอฮฺ) และพวกเจ้าจงอย่าได้ให้ความช่วยเหลือกันในสิ่งที่เป็นบาปและการเป็นศัตรูกัน และพวกเจ้าจงยำเกรงต่ออัลลอฮฺ แท้ที่จริงแล้วอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรุนแรงในการลงโทษ” (อัลมาอิดะฮฺ : 2)
2. จากอะบูมูซา เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า
«إنَّ المؤْمِنَ لِلْـمُؤْمِنِ كَالبُنْيَانِ يَشُدُّ بَـعْضُهُ بَـعْضاً» وشبك r أصابعه.
ความว่า “แท้จริงแล้ว(ความสัมพันธ์ระหว่าง)ผู้ศรัทธากับผู้ศรัทธาดุจดั่งตึกที่มั่นคง” และท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้สอดประสานนิ้วมือของท่านเข้าด้วยกัน (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หะดีษที่ 481 และมุสลิม หะดีษที่ 2585 สำนวหะดีษเป็นของอัลบุคอรีย์)
ความประเสริฐของการปลดทุกข์และปลอบประโลมระหว่างกันของบรรดาผู้ศรัทธา
จากอะบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮฺ ได้กล่าวว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า
«مَنْ نَفَّسَ عَنْ مُؤْمِنٍ كُرْبَةً مِنْ كُرَبِ الدُّنْيَا، نَفَّسَ الله عَنْـهُ كُرْبَةً مِنْ كُرَبِ يَوْمِ القِيَامَةِ، وَمَنْ يَسَّرَ عَلَى مُعْسِرٍ، يَسَّرَ الله عَلَيهِ فِي الدُّنْيَا وَالآخِرَةِ، وَمَنْ سَتَرَ مُسْلِـماً، سَتَرَهُ الله فِي الدُّنْيَا وَالآخِرَةِ، وَالله فِي عَوْنِ العَبْدِ مَا كَانَ العَبْدُ فِي عَوْنِ أَخِيْـهِ...».
ความว่า “ผู้ใดที่ช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ยากแก่ผู้ศรัทธาคนหนึ่งในโลกนี้ อัลลอฮฺจะช่วยปลดเปลื้องหนึ่งความทุกข์แก่เขาในวันกิยามะฮฺ และผู้ใดได้ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ประสบความยากลำบาก อัลลอฮฺจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่เขาในโลกนี้และในวันอาคีเราะฮฺ และผู้ใดที่ช่วยปกปิด(ความลับหรือสิ่งที่ไม่ดีที่มีอยู่)ของมุสลิมคนหนึ่ง อัลลอฮฺจะทรงปกปิด(ความลับและสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ)แก่เขาในโลกนี้และในวันอาคีเราะฮฺ และอัลลอฮฺทรงช่วยเหลือบ่าวเสมอ ตราบใดที่บ่าวคนนั้นช่วยเหลือพี่น้องของเขา....” (บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 2699)
จากเษาบาน เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ จากรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า
«مَنْ عَادَ مَرِيضاً لَـمْ يَزَلْ فِي خُرْفَةِ الجَنَّةِ» قِيلَ: يَا رَسُولَ الله وَمَا خُرْفَةُ الجَنَّةِ ؟ قَالَ: «جَنَاهَا».
ความว่า “ผู้ใดที่เยี่ยมเยียนผู้ป่วย เขาผู้นั้นจะอยู่ในคุรฺฟะฮฺของสวนสวรรค์ มีคนถามท่านรอ ซูลขึ้นมาว่า โอ้ท่านรอซูลลุลลอฮฺ คุรฺฟะฮฺ ของสวนสวรรค์ คืออะไร ? ท่านตอบว่า คือผลของสวรรค์(นักวิชาการบางท่านให้ความหมายว่า เส้นทางที่ไปสู่สวนสวรรค์ )” (บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 2568)
ความประเสริฐของการบริจาคทาน
อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลาได้ตรัสว่า
ความว่า “แท้จริงบรรดาผู้บริจาคชายและบรรดาผู้บริจาคหญิง และพวกเขาได้ให้อัลลอฮฺยืม(บริจาคในหนทางของอัลลอฮฺ) ด้วยการยืมที่ดี จะมีเพิ่ม(ผลบุญ)แก่พวกเขา และสำหรับพวกเขาจะได้รับรางวัลอันมีเกียรติ” (อัลหะดีด : 18)
ความประเสริฐของการซื้อ การขาย และผลที่ได้รับ
จากญาบิรฺ บิน อับดุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ ได้กล่าวว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า
«رَحِـمَ الله رَجُلاً سَمْـحاً إذَا بَاعَ، وَإذَا اشْتَرَى، وَإذَا اقْتَضَى».
ความว่า “อัลลอฮฺทรงเมตตาแก่ผู้ที่ใจกว้างเมื่อเขาได้ค้าขาย เมื่อเขาได้ซื้อ และเมื่อเขาได้ปฏิบัติ (ซื้อหรือขาย)ไปแล้ว” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หะดีษที่ 2026)
ความประเสริฐของการญิฮาด(การเสียสละต่อสู้) การฮิจญ์เราะฮฺ(อพยพ) และการช่วยเหลือในหนทางของอัลลอฮฺ
1. อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลาได้ตรัสว่า
ความว่า “บรรดาผู้ที่นั่งอยู่จากหมู่มุอฺมิน(ผู้ศรัทธา)ที่มิใช่ผู้ที่มีความเดือดร้อน และบรรดาผู้ต่อสู้และเสียสละในทางของอัลลอฮฺ ทั้งด้วยทรัพย์สมบัติของพวกเขาและชีวิตของพวกเขานั้น หาได้เท่าเทียมกันไม่ อัลลอฮฺทรงให้บรรดาผู้ที่ต่อสู้และเสียสละด้วยทรัพย์สมบัติของพวกเขาและชีวิตของพวกเขา เหนือกว่าบรรดาผู้ที่นั่งอยู่ขั้นหนึ่ง และทั้งหมดนั้นอัลลอฮฺได้ทรงสัญญาไว้ให้ซึ่งสิ่งที่ดีเยี่ยม แต่อัลลอฮฺทรงให้บรรดาผูที่ต่อสู้และเสียสละเหนือกว่าบรรดาผู้ที่นั่งอยู่ด้วยรางวัลอันยิ่งใหญ่หลวง (คือพวกเขาจะได้รับ)หลายขั้น จากพระองค์ และ(จะได้รับ) การอภัยโทษ และการเอ็นดูเมตตาด้วย และปรากฏว่าอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเอ็นดูเสมอ” (อันนิสาอ์ : 95-96)
2. อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลาได้ตรัสว่า
ความว่า “และบรรดาผู้ศรัทธา และอพยพ และต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ และบรรดาผู้ที่ให้ที่พักอาศัย และช่วยเหลือนั้น ชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้ศรัทธาที่แท้จริง ซึ่งพวกเขาจะได้รับการอภัยโทษ และเครื่องยังชีพอันมากมาย” (อัลอันฟาล : 74)
ความประเสริฐของการเยี่ยมเยือนเพื่ออัลลอฮฺ
1. จากอะบีฮุร็อยเราะฮฺ จากท่านนบี ศอลลอลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า
«أنَّ رَجُلاً زَارَ أخاً لَـهُ فِي قَرْيَةٍ أُخْرَى، فَأرْصَدَ الله لَـهُ عَلَى مَدْرَجَتِـهِ مَلَكًا، فَلَـمَّا أتَى عَلَيْـهِ قال: أيْنَ تُرِيدُ؟ قال: أرِيدُ أخاً لِي فِي هَذِهِ القَرْيَةِ، قال: هَلْ لَكَ عَلَيْـهِ مِنْ نِعْمَةٍ تَرُبُّـهَا؟ قال: لا، غَيْرَ أنِّي أحْبَبْتُـهُ فِي الله عَزَّ وَجَلَّ، قال: فَإنِّي رَسُولُ الله إلَيْكَ بِأنَّ الله قَدْ أحَبَّكَ كَمَا أحْبَبْتَـهُ فِيهِ».
ความว่า “มีชายผู้หนึ่งได้เยี่ยมเยือนพี่น้องของเขาคนหนึ่งที่อยู่ต่างหมู่บ้าน อัลลอฮฺได้เฝ้าติดตามเขาด้วยการส่งมลาอิกะฮฺท่านหนึ่งไปตามเส้นทางที่ชายผู้นั้นเดินทางไป เมื่อมลาอิกะฮฺได้มาพบชายคนนี้ มลาอิกะฮฺจึงถามชายคนนั้นว่า ท่านต้องการไปที่ไหนหรือ? ชายผู้นั้นตอบว่า ฉันต้องการไปเยี่ยมพี่น้องของฉันคนหนึ่งที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ มลาอิกะฮฺถามอีกว่า ท่านมีผลประโยชน์อะไรจากเขาที่ท่านสามารถเป็นเจ้าของได้ ชายคนนั้นตอบว่า ไม่เลย นอกจากว่า ฉันรักเขาเพื่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลา เท่านั้น มลาอิกะฮฺจึงกล่าวขึ้นว่า แท้ที่จริงแล้ว ฉันคือทูตของอัลลอฮฺที่ได้ส่งมายังท่านเพื่อแจ้งว่า แท้จริงแล้วอัลลอฮฺทรงรักท่านดั่งที่ท่านได้รักพี่น้องของท่านเพื่อพระองค์ ” (บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 2567)
2. จากมุอาซ บิน ญะบัล ได้กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า
«قَالَ الله تَبارَكَ وَتَعالَـى: وَجَبَتْ مَـحَبَّتِي لِلْـمُتَـحابِّينَ فِيَّ، وَالمُتَـجَالِسِينَ فِيَّ، وَالمُتَزَاوِرِينَ فِيَّ، وَالمُتَـبَاذِلِينَ فِيَّ».
ความว่า “อัลลอฮฺ ตะบาเราะกา วะตะอาลา ได้ตรัสว่า : ความรักของข้าได้ถูกกำหนดสำหรับคนที่รักกันเพื่อข้า คนที่นั่งร่วมกันเพื่อข้า คนที่เยี่ยมเยียนเพื่อข้า และคนที่เผื่อแผ่แก่กันเพื่อข้า” (หะดีษเศาะหีหฺ บันทึกโดยมาลิก หะดีษที่ 1779 และอะหฺมัด หะดีษที่ 22380 สำนวนหะดีษเป็นของมาลิก)
อ้างอิง :: https://islamhouse.com/th/articles/151433